การเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยง "หน้าผาการคลัง" ของสภาคองเกรสหยุดชะงักลงช่วงก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส เมื่อแผนสำรองของนายจอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอจาก สมาชิกพรรค ผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกันตัดสินใจยกเลิกการลงคะแนนเสียง รับร่างกฎหมายปรับขึ้นภาษีของนายจอห์น เบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 ธ.ค.) หลังจากไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนเพื่อผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในสภาฯ ได้มากเพียงพอ พร้อมประกาศว่าจะไม่มีการลงคะแนนเสียงรับร่างกฎหมายใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดหน้าผาการคลัง (fiscal cliff) จนกว่าวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสจะผ่านพ้นไป ความล้มเหลวของการผ่านร่างกฎหมายที่นายเบห์เนอร์เป็นผู้เสนอ ส่งผลให้ในเวลานี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีทางเลือกอีกไม่มากนักเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลังในช่วงเวลาที่ เหลือเพียงไม่กี่วันก่อนจะถึงสิ้นปี ทางหนึ่งคือหาทางประนีประนอมกับพรรคเดโมแครตและประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งอาจหมายถึงการยอมให้มีการขึ้นภาษีมากกว่าที่นายเบห์เนอร์เป็นผู้เสนอ "สภาผู้แทนราษฎรไม่หยิบยกมาตรการภาษีขึ้นมาพิจารณาในวันนี้เพราะไม่ได้รับ เสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคของเรามากพอที่จะผ่านสภา" นายเบห์เนอร์กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมระบุว่า เวลานี้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีบารัก โอบามาที่จะทำงานร่วมกับวุฒิสมาชิกแฮร์รี รีด ประธานวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ในการเสนอร่างกฎหมายเพื่อหลีกเลี่ยงหน้าผาการคลัง วุฒิสภามีกำหนดประชุมในวันศุกร์ (21 ธ.ค.) จากนั้นจะหยุดพักช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม เพียง 4 วันก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีและลดค่าใช้จ่ายจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติในวัน ที่ 1 มกราคม 2556 ร่างกฎหมายที่นายเบห์เนอร์ไม่สามารถผลักดันผ่านสภาฯได้ในวันพฤหัสบดีเป็น ข้อเสนอที่นายเบห์เนอร์เปิดเผยออกมาช่วงสัปดาห์นี้หลังจากเชื่อว่าการเจรจา กับนายโอบามาเพื่อหาทางออกร่วมกันมาถึงทางตัน แผนที่นายเบห์เนอร์เรียกว่า "แผนบี" ประกอบไปด้วยข้อเสนอให้ต่ออายุการลดหย่อนภาษีให้กับชาวอเมริกันส่วนใหญ่ของ ประเทศ และขึ้นภาษีเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้เกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไม่มีการระบุถึงการลดค่าใช้จ่ายด้านการทหารและค่าใช้จ่ายภายในประเทศ มูลค่า 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายของโครงการประกันสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโอบามาเสนอให้ต่ออายุการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ที่มี รายได้ต่ำกว่า 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี จากนั้นได้ยินยอมเพิ่มกำหนดรายได้ขึ้นเป็น 4 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี อย่างไรก็ดีมีโอกาสที่สมาชิกวุฒิสภาของเดโมแครตจะไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว ถ้าไม่มีการผ่อนปรนมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐ เป็นต้น