European Union เตือนอย่างเป็นทางการ ถึงความเสี่ยงของผู้บริโภคที่ใช้สกุลเงินออนไลน์ว่า ประชาชนผู้ใช้เงินบิตคอยน์ต้องรับผิดชอบตัวเองหากเกิดความเสียหาย องค์กรการเงินยุโรปหรือ EBA กล่าวว่า ไม่มีการป้องกันหรือจ่ายชดเชยสำหรับประชาชนเจ้าของกระเป๋าเงินดิจิทัลหากถูกจารกรรมข้อมูล โอนเงินผิด หรือเว็บไซต์ปิดตัว EBA ไม่ได้ห้ามผู้บริโภคใช้สกุลเงินออนไลน์ แต่กล่าวว่า หากสุดท้ายผู้บริโภคต้องสูญเงินไปจะไม่มีตาข่ายความปลอดภัยคอยรองรับ เหมือนการจ่ายชดเชยให้กับผู้ฝากเงินหากธนาคารกระแสหลักล้มละลาย ปัจจุบัน EU ยังไม่มีกฎระเบียบป้องกันเป็นการเฉพาะที่จะช่วยปกป้องผู้บริโภคจากการสูญเสียเงิน หากเว็บไซต์ซึ่งแลกเปลี่ยนหรือครอบครองสกุลเงินเสมือนนี้ล้มเหลว หรือเลิกทำธุรกิจ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีธนาคารกลางหรือรัฐบาลใดสนับสนุนบิตคอยน์ หรือมีสินทรัพย์ที่จับต้องได้อ้างอิง โดยมูลค่าของบิตคอยน์ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของประชาชนเท่านั้น บิตคอยน์ได้รับการยอมรับโดยใช้กันทั่วไปในสาธารณะและแวดวงการลงทุน แต่เว็บไซต์ค้าปลีกรายใหญ่อย่าง amazon.com ยังไม่ยอมรับการจ่ายเงินในรูปแบบนี้ EBA แถลงว่า มีรายงานร้องเรียนหลายกรณีว่าผู้บริโภคหลายรายสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลในการใช้สกุลเงินเสมือนจริงนี้ โอกาสที่จะได้กลับคืนมาน้อยมาก อีกทั้งในการใช้สกุลเงินเสมือนจริงทำธุรกรรมการค้า ผู้บริโภคจะไม่ได้การปกป้องโดยสิทธิการคืนเงินใด ๆ ภายใต้กฎหมาย EU