แบรนด์อย่างหลุยส์ วิตตองนั้นได้พยายามจับลูกค้าด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยและดูสูงค่า แต่ว่าเมื่อมีการช้อปปิ้งออนไลน์ขึ้นมา การที่จะดึงลูกค้ามาที่ร้านเหมือนเดิมนั้นทำได้ยากขึ้น ทำให้แบรนด์ต้องมีการคิดถึงวิธีใหม่ที่จะทำให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจ ด้วยการที่จะคิดเกินกว่าแค่สิ่งของที่จะขาย หรือว่าการคืดค้น “จุดขายครอบคลุม” หรือ “Retail destinations” ที่จะทำให้แบรนด์และลูกค้าได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น คือการที่ลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ของอย่างเดียว แต่เป็นการซื้อประสบการณ์และความรู้สึกในช่วงการขายอีกด้วย นอกจากนั้น ยังได้มีการตกแต่งร้านให้มีความน่าสนใจและน่าค้นหาเหมือนกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งคอนเซ็บท์นี้ได้เกิดขึ้นที่ร้านหลุยส์ วิตตองในประเทศอังกฤษหลังจากใช้เวลาตระเตรียมถึง 4 ปี ซึ่งทำให้หลุยส์ วิตตองสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างแอร์เมสและชาแนลไปได้ในด้านราคาของแบรนด์ที่ถูกประเมินไว้สูงถึง 23.58 พันล้าน แบรนด์อย่างเบอร์เบอรี่ได้ลงทุนไปกับออนไลน์มากมาย ซึ่งเป็นจุดขายหลักของแบรนด์นี้จากการที่เห็นว่าลูกค้าของแบรนด์ได้มีการช้อปออนไลน์ที่สูง จุดนี้ได้ช่วยให้เบอร์เบอรี่ได้มีการปรับปรุงภาพลักษณ์ของแบรนด์และและเพิ่มการดึงดูดลูกค้าที่เด็กลงและขยายกลุ่มลูกค้าไปทั่วโลก ซึ่งได้ประสบความสำเร็จมากมายหลังจากที่บริษัทประกาศว่าได้เพิ่มยอดขายในไตรมาสที่ 1 ถึง 21 เปอร์เซ็นต์