ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) ถึงแม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ที่สูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเร็วกว่ากำหนด ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนสเพิ่มขึ้น 8.60 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 15,303.10 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.91 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 1,649.60 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.28 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 3,459.14 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะปรับลดขนาดของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลง แต่อย่างไรก็ดี การปรับตัวลงของดัชนี้ได้ถูกสกัดโดยแรงช้อนซื้อ เนื่องจากนักลงทุนบางรายมองว่าเป็นโอกาสในการลงทุน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 3.3% สู่ระดับ 2.226 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในเครื่องบินรบและเครื่องบินพาณิชย์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนมี.ค. ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวอย่างผันผวนหลังจากที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะลดขนาดของการรับซื้อทรัพย์สินลงในการประชุมนโยบายอีกหลายครั้งในอนาคต ถ้าหากเฟดเชื่อว่าการปรับตัวที่ดีขึ้นของตลาดแรงงานเป็นไปอย่างยั่งยืน สำหรับข่าวเกี่ยวกับบริษัทเอกชน หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล โค ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 4.04% หลังจากที่ประกาศแต่งตั้งซีอีโอคนใหม่ หุ้นเดลตา แอร์ไลน์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 2.38% หลังเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารในสนามบินจอห์น เอฟ. เคเนดี อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ตในนิวยอร์ก ภายหลังปิดปรับปรุงในวงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน