ตลาดหุ้นยุโรปขยับขึ้นเล็กน้อย และยังอยู่ใกล้ระดับปิดสูงสุดในรอบกว่า 4 ปีซึ่งทำไว้เมื่อวานนี้ เพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางหลายประเทศจะยังคง ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.2% แตะระดับ 294.62 จุด เมื่อเวลา 12.28 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจากเมื่อวานนี้ดัชนีพุ่งขึ้น 1.8% ปิดที่ 294.11 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551 นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางอังกฤษ ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น จะประกาศใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปในการประชุมวันพรุ่งนี้ หลังจากที่นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ว่าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า เขาจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อขจัดภาวะเงินฝืดที่ญี่ปุ่นเผชิญมาอย่าง ยาวนานถึง 15 ปี ขณะเดียวกันนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวย้ำหลายครั้งว่าการแข็งค่าของเงินยูโรกำลังทำลายโอกาสการฟื้น ตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน ทำให้นักลงทุนจับตาการแถลงของนายดรากิเพื่อประเมินสัญญาณที่อาจบ่งชี้ ถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในอนาคต โดยตลาดยังมีความหวังว่าอีซีบีจะลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.0 ในเดือนก.พ. จากระดับ 55.2 ในเดือนม.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 55.0 ขณะเดียวกัน มาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอังกฤษเดือนก.พ. ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 51.8 ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. จากระดับเดือนม.ค.ที่ 51.5 ขณะที่ความเชื่อมั่นก็ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน นับเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจหวนกลับสู่ภาวะของการขยายตัวในไตรมาสแรกนี้