ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในสหรัฐฯที่จัดทำโดยหนังสือพิมพ์ “เดอะ ฮิลล์” และสถาบันวิจัย“พัลส์”ระบุกลุ่มผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งชาวอเมริกัน ส่วนใหญ่เชื่อว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ไม่ได้มีผลงานที่ดีไปกว่า อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุชในด้านการสร้างสมดุลระหว่างประเด็นความมั่นคงของชาติ กับการปกป้องเสรีภาพของพลเรือน ผลสำรวจล่าสุดที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์และมีการเผยแพร่ในวันจันทร์ (11)พบว่า 37 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ชาวอเมริกันจำนวน 1,000 คน ระบุ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจากพรรคเดโมแครตมีผลงานที่ย่ำแย่กว่า อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน ในการดูแลความมั่นคงของชาติและการปกป้องเสรีภาพของประชาชน ส่วนอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ระบุ ว่า โอบามาและบุชมีผลงานในเรื่องดังกล่าวที่ แย่พอๆกัน กลุ่มตัวอย่างราว 21 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่าตนเองเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพวกเสรีนิยมอีก 23 เปอร์เซ็นต์ ลงความเห็นว่า ความมั่นคงของสหรัฐฯและเสรีภาพของประชาชนไม่ได้พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นเลย ในยุคของโอบามา เมื่อเทียบกับตอนที่บุชครองอำนาจในช่วงปี 2001 - 2009 ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดมีขึ้นไม่นาน หลังมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสำนักต่างๆในสหรัฐฯถึงเนื้อหาในบันทึก ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯที่ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯสามารถ “ฆ่าพลเมืองชาวอเมริกัน” ของตัวเองได้ทันทีโดยใช้การโจมตีจาก “โดรน” หรืออากาศยานรบไร้นักบิน หากรัฐบาลสงสัยว่าชาวอเมริกันผู้นั้นมีความเกี่ยวข้องทางใดทางหนึ่งกับเครือ ข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ หรือมีพฤติกรรมที่เป็นภัยคุกคามต่อประเทศ โดยผลสำรวจความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์ “เดอะ ฮิลล์” และสถาบันวิจัย “พัลส์” ที่เพิ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (11) ยังระบุด้วยว่า 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกันมองว่า การใช้โดรนสังหารพลเมืองอเมริกันเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ถึงแม้บุคคลดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายจริง