สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนธ.ค.ขยับลง 1 เซนต์ แตะที่ 86.31 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเวลา 10.33 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบสัปดาห์ ที่แล้ว การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย.พุ่งขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 184,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 103,000 บาร์เรล อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ หลังจากอิสราเอลได้บุกโจมตีฉนวนกาซา ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าความไม่สงบในตะวันออกกลางจะส่งผล กระทบต่ออุปทานน้ำมัน สถานการณ์รุนแรงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มนักรบในฉนวนกาซ่าทวีความ รุนแรงขึ้นในช่วงค่ำวานนี้ หลังจากการเสียชีวิตของนายอาห์เหม็ด อัล-จาบารี ผู้นำสูงสุดของฮามาส โดยฝีมือของกองกำลังทหารอิสราเอล โดยกองกำลังนาวิกโยธินของอิสราเอลยังคงยิงถลุ่มกลุ่มเป้าหมายในฉวนกาซา เมื่อวานนี้ หลังจากที่ได้สังหารเป้าหมายได้ 10 คน ซึ่งรวมถึงนายอัล-จาบารี และพลเรือนอีกอย่างน้อย 5 คน นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้แสดงความวิตกกังวลต่อกรณีที่อิสราเอลยิ่งถล่มจนทำให้ผู้นำกลุ่มฮา มาสเสียชีวิต โดยเขากล่าวว่า สถานการณ์กำลังเลวร้ายลง และกังวลว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตนส์จะทวีความรุน แรงขึ้น นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจเพิ่มขึ้น 1.85 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 350,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%